การตกแต่งภายใน ที่พักอาศัย บ้าน คอนโด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ให้ความเป็นส่วนตัวและไลฟ์สไตล์ของครอบครัวมากที่สุด ในการที่จะตกแต่งให้ทุกพื้นที่ในบ้าน คอนโด ให้มีความสะดวกสบาย รู้สึกผ่อนคลายหรือเข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้นั้น จำเป็นต้องมีหลักการในการพิจารณาและออกแบบลงรายละเอียด เพื่อให้ทุกมุมของบ้านสวยงามตอบโจทย์ได้มากที่สุด ซึ่งจะมีหลักการพิจารณาดังนี้
1. การกำหนดพื้นที่
การกำหนดพื้นเป็นขั้นตอนแรกของการตกแต่งภายใน เราควรระบุพื้นที่ส่วนต่างๆ ให้เป็นสัดส่วน เช่นกำหนด พื้นที่ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ห้องนอน ห้องครัว ฯลฯ โดยพิจารณาถึงความเหมาะสมในการเข้าไปใช้งานพื้นที่ส่วนนั้นๆ อย่างสะดวกสะบาย เช่น ห้องรับประทานอาหาร เชื่อมต่อกับพื้นที่เตรียมอาหาร ห้องแต่งตัวอยู่ในห้องนอน ห้องรับแขกอยู่โซนด้านหน้า เป็นต้น
2. การจัดพื้นที่แต่ละโซนให้แมตช์กับฟังก์ชั่นของครอบครัว
ภายหลังที่เรากำหนดพื้นที่เป็นโซนนิ่ง เราจะลงรายละเอียดในแต่ละพื้นที่ว่าควรมีเฟอร์นิเจอร์และฟังก์ชั่นใดบ้าง เป็นการวางผังหรือวางแปลนภายในบ้าน โดยคำนึงถึงความสะดวกสบายในพื้นที่ ที่ไม่อึดอัดจนเกินไป และ คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก และ สิ่งสำคัญต้องจัดวางให้เข้ากับฟังก์ชั่นและไลฟ์สไตล์ของคนในครอบครัว เช่น ในครอบครัวชอบทำอาหารร่วมกัน เราควรจะกำหนดพื้นที่ห้องครัว ส่วนเตรียมอาหาร ให้รองรับกิจกรรมของคนในครอบครัว หรือคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยในแต่ละพื้นที่เป็นหลัก เช่น ห้องนั่งเล่นควรมีผนังทีวี ชุดโซฟา ชั้นวางของ, ห้องเตรียมอาหาร ควรมีเคาน์เตอร์ ตู้เก็บภาชนะ เป็นต้น
3. กำหนดรูปแบบและสไตล์การตกแต่งที่ชอบ
เมื่อเราจัดพื้นที่ภายในลงตัวแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ รูปแบบและสไตล์การตกแต่ง งานตกแต่งภายในมีด้วยกันหลากหลายสไตล์ เราควรพิจารณารูปแบบและสไตล์ที่เราชอบเพราะการตกแต่งที่พักอาศัยจะอยู่กับเราไปอีกนาน เราควรพิจารณาถึงรูปแบบการตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง ให้แมตช์กับสไตล์ที่เราชอบ
4. กำหนดฟังก์ชั่นในเฟอร์นิเจอร์
สิ่งที่มีความสำคัญอีกประการหนึ่ง คือการระบุฟังก์ชั่นในเฟอร์นิเจอร์เพื่อประโยชน์การใช้สอยที่สะดวกที่สุด เช่น ห้องแต่งตัว มีตู้เสื้อผ้า โต๊ะแต่งหน้า หรือ เคาน์เตอร์ ISLAND ภายในเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ควรมีฟังก์ชั่นที่เราใช้เป็นประจำเช่น มีที่แขวนเสื้อ มีที่แขวนกางเกง มีที่แขวนชุดเดรส มีที่เก็บผ้าพับ มีลื้นชัก ช่องใส่เครื่องประดับ มีตู้เก็บกระเป๋าถือ กระเป๋าเดินทาง โต๊ะแต่งหน้ามีชั้นวางอุปกรณ์แต่งหน้า และมีไฟเมื่อเปิดตู้ เป็นต้น หลักการนี้ใช้ได้กับเฟอร์นิเจอร์ทุกพื้นที่โดยเราพิจารณาจากการใช้สอยในชีวิตประจำวันของเราและคนในครอบครัว
5. การเลือกใช้วัสดุในงานตกแต่งภายใน
วัสดุในงานตกแต่งภายในมีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่วัสดุใช้ทำโครงเฟอร์นิเจอร์ จนถึงวัสดุตกแต่งปิดผิว หลักการเลือกวัสดุนอกจากจะเลือกตามความสวยงามแล้ว เรายังต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้งานของวัสดุนั้นด้วย เช่น TOP หินเคาน์เตอร์ชุดครัวควรเลือกที่มีความคงทนแข็งแรงไม่ดูดซึมง่าย โครงบิ้วอิน หรือ เฟอร์นิเจอร์ เลือกไม้ชนิดที่แข็งแรง ทนชื้น ป้องก้นปลวก เป็นต้น
6. อุปกรณ์ของแต่งบ้าน
การเลือกของแต่งบ้านเป็นองค์ประกอบที่ทำให้ที่พักอาศัยน่าอยู่ยิ่งขึ้น เราสามารถเลือกของแต่งบ้านให้เข้ากับสไตล์ของบ้าน เช่น เลือกโคมไฟแชนเดอเรียให้เข้ากับสไตล์การตกแต่ง เลือกผ้าม่านเข้ากับธีมการตกแต่ง หรือจะเลือกพร็อพของแต่งบ้านให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนในครอบครัวขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่คน
หลักการพิจารณานี้จะช่วยให้เราสามารถลำดับขั้นตอนการตกแต่งภายใน และ มีแนวทางในการลงรายละเอียดในการตกแต่งเพื่อให้ได้การตกแต่งภายในที่ตอบโจทย์มากที่สุด และ การตกแต่งภายในควรมีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาเพื่อแนะนำรายละเอียดที่ถูกต้องและป้องกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นได้อีกด้วย
POSH INTERIOR ยินดีให้คำปรึกษาและบริการด้านออกแบบตกแต่งภายใน
